Xiaomi เริ่มจากการหลอมรวม

Xiaomi เริ่มจากการหลอมรวม

Xiaomi เริ่มจากการหลอมรวม

Xiaomi เริ่มจากการหลอมรวม Xiaomi เริ่มก่อตั้งเมื่อเดือนเมษายนปี 2010 โดย Lei Jun อดีตซีอีโอ (บริษัทซอฟต์แวร์รายหนึ่งของจีน ทำพวกแอพออฟฟิศ, แอนตี้ไวรัส ฯลฯ) และเป็นผู้ก่อตั้งเว็บไซต์พอร์ทัลไอทีและดาวน์โหลดโปรแกรมนามว่า Joyo.com และในปี 2004 ก็ถูก Amazon ซื้อไปเป็น 

ตอนเริ่มแรก Xiaomi ยังไม่ได้ทำฮาร์ดแวร์ของตัวเอง แต่เริ่มจากเป็นทีมทำรอมแบบ after market ให้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ในนาม MIUI ปัจจุบันรอมตัวนี้ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งเพื่อใช้งานกับสมาร์ทโฟนของตัวเอง และใช้กับสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ แล้วกว่า 200 รุ่น จุดเด่นของรอม MIUI น่าจะอยู่ที่ความเรียบง่ายและสวยงามต่อเติมจากฟังก์ชั่นพื้นฐานของระบบแอนดรอยด์ทั่วไป (และอดไม่ได้ที่จะเทียบเคียง iOS ในบางมิติ)

Lei Jun ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง CEO และ Chairman

ของ Xiaomi ล้อมรอบด้วยทีมงานและผู้ร่วมก่อตั้ง

ไม่ได้มีแค่แม่ทัพ แต่ทีมผู้ร่วมก่อตั้ง Xiaomi มีทั้งหมด 8 คน ประกอบด้วย (เรียงจากซ้ายไปขวา):

  • Bin Lin – อดีตมันสมองเบื้องหลัง Windows Vista, IE 8 ของไมโครซอฟท์ และเคยเป็นขุนพลสำคัญของ Google ในจีน
  • Jiangji Wong – อดีตคนของสถาบันวิศวกรรมไมโครซอฟท์ประเทศจีน ปัจจุบันดูแลทีม Mi Wi-Fi และ Mi Cloud
  • Guangping Zhou, PhD – อดีตหัวหน้าทีม R&D ของ Motorola ในโปรเจกต์โทรศัพท์มือถือตระกูล ปัจจุบันเป็น director อยู่ในทีมพัฒนาสมาร์ทโฟน
  • Wanqiang Li – มิตรสหายจาก Kingsoft ปัจจุบันดูแลช่องทางอีคอมเมิร์ซ, การตลาด และงานปฏิบัติการทั่วไปใน mi.com
  • De Liu – อดีตคณบดีภาควิชาออกแบบอุตสาหกรรมจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีปักกิ่ง เข้ามาดูแลเรื่องการดีไซน์และการพัฒนา Ecosystem ของบริษัท
  • Chuan Wong – อดีตผู้ก่อตั้งบริษัท Thunder Stone Technology ซัพพลายเออร์อุปกรณ์เอวี (ภาพและเสียง) และก่อตั้ง Beijing Duokan Technology ทำแอพอ่านอีบุ๊ก ก็ถูกซื้อเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับ Xiaomi เข้ามาดูแลส่วนอินเทอร์เน็ตทีวี อย่าง Mi TV และ Mi Box
  • Feng Hong อดีตวิศวกรซอฟต์แวร์จาก Google สำนักงานใหญ่ มาเป็นตัวตั้งตัวตีในสายงานการพัฒนารอม MIUI

ในเวทีโลก Xiaomi ยังมี Hugo Barra

อดีตรองประธานของ Android Product Management จาก Google มาช่วยดูแล Xiaomi ในส่วน Global Division ด้วย ช่วยขยายตลาดของบริษัทไปยังประเทศอื่นๆ นอกจีนได้มากขึ้น

เห็นได้ว่า Xiaomi ก่อตั้งขึ้นด้วยทีมงานผู้ทรงประสบการณ์ในแต่ละสาขารอบด้าน ไม่เว้นแม้แต่ด้านคอนเทนต์ ที่ได้ Tong Chen อดีตรองประธานและบรรณาธิการบริหารของ Sina.com พอร์ทัลไซต์ใหญ่สุดของจีนมาช่วยดูแล โดยรวมแล้วเรียกว่าฟอร์มดีอย่างยิ่ง

เป็นเกร็ดนิดหนึ่ง: มีการพูดถึงในการที่อินเดียของ CEO Lei Jun ด้วย แต่ผลที่ได้รับคือ… (ไม่ clickbait) มีการวิพากษ์ในวงกว้างแต่ก็ไม่ได้ส่งผลลบร้ายแรงถึงแบรนด์ขนาดนั้น

ตัวรอม MIUI ปัจจุบันมาถึงเวอร์ชั่น 6 พร้อมทำงานร่วมกับเซอร์วิสต่างๆ ของ Xiaomi เอง ทั้งแอพสโตร์ของตัวเอง (MIUI Market, MIUI Games ไม่จำเป็นต้องใช้แอพจาก Play Store อย่างเดียว), MiCloud (บริการคลาวด์สตอเรจความจุ 5GB ซิงค์กับอุปกรณ์ต่างๆ), MiLife (บริการรวมกลุ่มกันซื้อหรือ group buying เพื่อได้สินค้าและบริการราคาถูก) ฯลฯ ต้องบอกก่อนว่าบริการ Xiaomi ส่วนใหญ่ยังเป็นภาษาจีนล้วน และคงจะค่อยๆ ปรับตัวเพื่อขยายตลาดมายังต่างประเทศต่อไป

ที่น่าสนใจคือตอนนี้เรียบร้อยแล้ว ทั้งยังมีคอมมูนิตี้ของผู้ใช้อย่างแข็งแกร่งใน ที่ผู้คนเข้าไปสอบถาม แบ่งปันข้อมูลได้อย่างเสรี

บุกตลาดด้วยแนวคิด “เทคโนโลยีระดับเรือธง ที่ไม่จำเป็นต้องราคาแพง”

ปี 2011 Xiaomi เริ่มขยายตัวเองจากการทำรอม มาเป็นการผลิตฮาร์ดแวร์ของตัวเอง จากการเปิดตัวมือถือ Mi One ที่สร้างความฮือฮา เพราะเป็นสมาร์ทโฟนสเปกสูงในราคาย่อมเยา จนกวาดยอดขายได้กว่า 7 ล้านเครื่อง เกินเป้าที่ตั้งไว้เพียงหลักแสนเครื่องเท่านั้น

ในปีต่อมา ก็ปล่อย Mi 2 ก็พบกับยอดขายล็อตแรก 50,000 เครื่องในจีนหมดใน 3 นาที จวบปัจจุบัน สมาร์ทโฟนของ Xiaomi มาถึง Mi 4 พร้อมปล่อยรุ่นย่อย โดยยังคงแนวโน้มยอดขายถล่มทลายแบบเดิมในหลายประเทศ

จุดเด่นของสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต (และฮาร์ดแวร์อื่นๆ) ของทาง Xiaomi จะอยู่ที่สเปกของฮาร์ดแวร์เมื่อเทียบกับราคาแล้วคุ้มค่ามาก อย่างเช่นสมาร์ทโฟน Mi 4 ตัวเรือธงตอนนี้ คุณจะได้สมาร์ทโฟนชิป Snapdragon 801 2.5GHz, 3GB RAM, สตอเรจ 16/64GB, จอ 5″ 1080p ในราคาหมื่นบาทต้นๆ เท่านั้น

หมายเหตุ: ถ้าไม่นับเครื่องหิ้ว ตอนนี้ (พ.ค. 2558) ผู้ใช้ในประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าของ Mi 4 ในราคา 10,990 บาท โดยผู้นำเข้าสองราย คือโดยทรู และ STREK ซึ่งให้7-10 พฤษภาคม 2558 นี้

เผยแผนการใหญ่: ไปให้ไกลกว่าสมาร์ทโฟน

ในด้านฮาร์ดแวร์ Xiaomi คิดไปไกลกว่าสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตมาก บริษัททยอยเปิดตัวสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อีกหลายตัว เช่น

  • เป็นสมาร์ททีวี 4K ขนาด 49 นิ้ว ราคา 3,999 หยวน (ประมาณ 21,000 บาท) พร้อมชิปประมวลผลและกราฟิกในตัว เพื่อใช้เล่นเกม เชื่อมต่อบริการคอนเทนต์บันเทิงต่างๆ
  • อุปกรณ์สุขภาพ Xiaomi ก็ขอเกาะขบวน wearable device ด้วย Mi Band เป็นอุปกรณ์วัดค่าสุขภาพแบบสวมใส่ติดตัว เพื่อตรวจสอบเป้าหมายการใช้ชีวิตในแต่ละวันในราคาไม่ถึงพันบาท
  • อุปกรณ์อย่างหูฟัง,  กล้องแอ๊กชั่นแคม (Yi), แบตเตอรี่สำรอง,
  • กระทั่งเราเตอร์, รางปลั๊กไฟ, Xiaomi ก็ยังทำ โดยสินค้าแต่ละชิ้น (ที่เห็นภาพแล้ว) ก็เปี่ยมดีไซน์อยู่เนืองๆ
  • ที่แหวกแนวหน่อย ก็มีซื้อขายกองทุนผ่านแอพ Xiaomi Wallet กับอัตราผลตอบแทน 6.4% ต่อปี

ไม่หยุดเพียงเท่านี้ Lei Jun เคยประกาศไว้ว่า โดยพร้อมลงทุนในบริษัทสตาร์ตอัพไปแล้วกว่า 20 ราย และมีแผนจะลงทุนเพิ่มในอีกกว่า 100 บริษัท

สู่บัลลังก์เรื่องยอดขาย

Xiaomi พยายามวางตัวเองเป็นมวยรองในตลาดสมาร์ทโฟนโลก แต่ก็แอบแง้มว่าอยากเป็น global brand ด้วยกลยุทธ์ตั้งราคาให้ย่อมเยา (ถูกกว่าครึ่งของ iPhone) และลดราคาจำหน่ายได้ไม่ต่ำกว่า 10% จากการตัดมาร์จินหน้าร้านแบบเดิมๆ มาขายออนไลน์ล้วนในจีน, อินโดนีเซีย, ฮ่องกง, อินเดีย, มาเลเซีย, สิงคโปร์ และไต้หวัน (ไหนล่ะไทย? รอก่อน)

Hugo Barra ว่าวิธีรุกตลาดยุโรปจะใช้แผนเดียวกับในสหรัฐ คือผ่านทางหน้าเว็บ Mi.com ก่อน ทว่าเรื่องสมาร์ทโฟนในสหรัฐหรือยุโรป ก็ขอรุกเจาะตลาดอินเดียให้ได้ก่อนในระยะนี้

ด้านยอดขาย เมื่อไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปี 2014 Xiaomi มียอดขายสมาร์ทโฟนรวมกันทั้งโลกอยู่ในอันดับที่ 3 เป็นรองแค่ Apple และ Samsung เท่านั้น และเมื่อโฟกัสมาที่ตลาดจีน ยอดขายสมาร์ทโฟนในจีนก็เอาชนะ Samsung ในบ้านเกิดของตนได้แล้ว (ไม่แน่ใจว่าทิศทางยอดขายในอีกครึ่งปีที่เหลือนี้จะเป็นอย่างไร ก็ต้องลองติดตามดู)

แรงเสียดทานจากรอบทิศ

แต่ความสำเร็จของ Xiaomi ก็ใช่ว่าจะไร้อุปสรรคซะทีเดียว เพราะการผงาดขึ้นมาในระดับโลก ย่อมต้องเจอกับแรงเสียดทานจากรอบทิศ

การดีไซน์ Xiaomi เดินตามรอยของแอปเปิล และมักถูกเรียกว่าเป็น “Apple of China” อยู่เนืองๆ จนถึงขั้นที่ว่าท่านเซอร์ Jonathan Ive แห่ง Apple เคยเอ่ยถึงว่าแบรนด์จีนรายนี้เป็นโจร ก๊อปดีไซน์เขามา ทว่าจากเหตุการณ์นั้นทาง Xiaomi ก็เลือกโต้กลับด้วยการเสนอให้ท่านเซอร์ฯ มาลองใช้ของแบรนด์ตนดู พร้อมระบุว่า “design language” ของ iPhone 6 ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ ดังนั้นก็อย่ามาเคลมว่าดีไซน์ตัวเองคือต้นแบบเลย หรืออย่างที่มีคนกังขาว่าทำไม ซึ่ง Hugo Barra เคยกล่าวไว้ว่าบริษัททั่วโลกก็ใช้วิธีการนำเสนอแบบนี้

ในแผ่นดินกว้างใหญ่อย่างเมืองจีนเอง ก็ใช่ว่ามังกรจะมีตัวเดียว ล่าสุดบน Weibo (สื่อสังคมออนไลน์คล้ายทวิตเตอร์ในจีน) เพิ่งมีดราม่าระหว่าง Xiaomi และ LeTV แบรนด์สมาร์ทโฟนร่วมชาติ ที่ต่างคนก็เคลมว่าเครื่องของตนขอบจอบางสุด จากรายงานนี้พยายามจะชี้ว่า ยังมีคู่แข่งร่วมชาติที่ต้องแข่งขันกันแบบรู้กัน แต่เป้าหมายเดียวกันก็คือต่างคนก็ต่างจะงัดกับ Apple ให้ได้เช่นกัน

อ่านเพิ่มเติม doomovie ข้อดีดูหนังออนไลน์ อ่านเพิ่มเติม เรื่องย่อกลิ่นกาสะลอง Slotxo slot สล็อต pg slot pg slot Joker Gamimg superslot,JOKER SLOT ONLINE,บาคาร่า,UFABET,SLOT2PLAY,bearbaccarat,slotreview,betufacasino,zlotxo,xhamsterthai,fourslot,termgameonline,ufa9988,ufabett,serviceufa

อัพเดทล่าสุด : 11 พฤษภาคม 2021 (ข้อมูลล่าสุดปี 2021)